ความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมการบริการอาหาร
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้ ความต้องการบุคลากรเพื่อเข้าสู่อาชีพในอุตสาหกรรมการบริการอาหาร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหารจากทั่วโลก มีความต้องการคนทำงานไม่ว่าจะเป็นงานในครัวหรืองานบริการ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเข้ามามีหลายรูปแบบและเป็นนโยบายในแต่ละประเทศที่จะอนุญาตให้ต่างชาติเข้าไปทำงาน ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ก็ถือว่าไปหาประสบการณ์ จะมีหน่วยงานหรือบริษัทในเมืองไทยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่อหาคนหรือนักศึกษาที่จบแล้วและใกล้จบ แต่ต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี ไปเป็นพ่อครัวในโรงแรมหรือรีสอร์ท หรือคาสิโน ประเทศอเมริกาหรือแม้แต่ร้านอาหารที่มีความต้องการ
ซึ่งปีหนึ่งๆ จะมีคนไทยไปทำงานในรูปแบบนี้ที่เรียกว่า Internship มีระยะเวลาการทำงาน 12 เดือนหรือ 18 เดือน แต่ถ้าเป็น Work & Travel จะมีเวลา 3 เดือน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไปหาประสบการณ์ในช่วงปิดเทอม ก็เป็นการดีที่จะได้ทั้งประสบการณ์และได้เงินกลับมาด้วย (ถ้าเก็บเงินได้ โดยไม่เอาเงินไปเที่ยว ไปเล่น จนหมด) ซึ่งมีจำนวนมากในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ไป ต้องผ่านการทดสอบและสัมภาษณ์ เพราะฉะนั้นฝีมือต้องมี ภาษาต้องได้ จึงจะมีโอกาส และต้องมีความอดทน มีเป้าหมายในการเดินทางไปทำงาน ที่สำคัญสุขภาพต้องแข็งแรงและไม่มีโรคติดต่อ
ส่วนในประเทศไทยนั้น ความต้องการบุคลากรด้านนี้จะสูงมากโดยเฉพาะร้านอาหารที่เป็นแฟรนไชส์ หรือร้านอาหารที่มีสาขาทั่วประเทศรวมถึงธุรกิจที่มีการขยายสาขา ก็จะต้องการบุคลากรหลายระดับ ตั้งแต่พนักงานบริการ พ่อครัว ผู้จัดการร้าน แต่ปัญหาคือ ไม่มีบุคลากรป้อนเข้าสู่สาขาต่างๆ คนที่จบปริญญาตรีก็ไม่ตรงกับความต้องการ และคนเหล่านี้ก็ไม่ต้องการเข้าไปทำงาน อาจจะเป็นเพราะค่านิยมและวัฒนธรรมทางสังคม จนทำให้สถานประกอบการเหล่านั้นต้องเปิดโรงเรียนเพื่อฝึกคนเข้าทำงานในหน่วยงานของตนเองเพื่อให้ตรงกับความต้องการ
ซึ่งในด้านการศึกษาขณะนี้ก็มีความพยายามที่จะจัดรูปแบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พยายามศึกษาสมรรถนะ คือ ทักษะ และคุณลักษณะที่จำเป็นต้องมีในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งจากการรวบรวมและแบ่งออกเป็นด้านต่างๆ พอจะสรุปได้ตามประเด็นต่างๆ คือ ทางด้านความรู้ที่เป็นองค์รวม ต้องมีความรู้ในด้านต่างๆ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์ คนที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมการบริการอาหาร โดยเฉพาะพ่อครัวในอเมริกาจะมีหลักสูตรที่ให้พ่อครัวมาเรียนเพิ่มเติมทางด้านวิทยาศาสตร์ เรียนรู้พื้นฐานทางด้าน เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่จะนำไปใช้ในการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น นักศึกษาที่เรียนทางด้านวิชาดังกล่าวและการคำนวณด้วย เพราะต้องสามารถคำนวณต้นทุน ทำบัญชี การเงินได้ ด้านสุขาภิบาลความปลอดภัยในอาหาร คุณประโยชน์ของพืช-ผัก เนื้อสัตว์และวัตถุดิบต่างๆ ด้านศิลปะการจัดตกแต่งอาหารให้เหมาะสมและน่ารับประทาน ส่วนทักษะ ต้องมีทักษะการคิด ทักษะการประกอบอาหาร ทักษะการทำงาน ให้มีความชำนาญ ทักษะการวางระบบคุณภาพ ทางด้านทัศนะคติ ต้องมีใจรักในงาน มีความมุ่งมั่นในการทำงานให้สำเร็จและสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น ในด้านการเป็นผู้นำ ต้องมีความสามารถในการนำเสนอ มีวินัยในการทำงาน มีสมาธิ มีความอดทน สามมารถสร้างนวัตกรรมการคิด มีเทคนิคทางการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะต้องให้ความรู้และดึงตัวตนของเด็กตั้งแต่ประถม มัธยม เพื่อให้เด็กได้พัฒนาตนเอง และรู้จักตนเองมาเป็นระยะ ก่อนที่จะเข้าสู่งานและเรียนต่อในระดับต่อไป
ถ้าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันพัฒนาก็คงจะไม่มีคำว่า ขาดแคลนบุคลากรหรือไม่มีคนทำงาน และจะส่งผลให้การขยายตัวทางธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดีและรวดเร็ว ให้เศรษฐกิจของประเทศชาติดีขึ้น
ขอขอบคุณมากครับ
ที่มา : www.thailandrestaurantnews.com